เราได้รวบรวมคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยที่สุดที่เจ้าของโรงแรมสงสัยเมื่อตั้งค่าภาษี และค่าบริการในระบบการจองของแพลตฟอร์มที่พัก ซึ่งครอบคลุมทุกอย่าง ตั้งแต่การจองที่มีอยู่ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงภาษีตามกฎหมาย และกรณีที่สินค้าและบริการของคุณถูกเก็บภาษีในอัตราที่แตกต่างกัน

เมื่อคุณสร้าง แก้ไข หรือลบภาษี การเปลี่ยนแปลงนี้จะใช้กับการจองใหม่เท่านั้น จะไม่ส่งผลต่อการจองที่สร้างขึ้นก่อนการเปลี่ยนแปลง

หากเขตอำนาจศาลของคุณมีการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีสำหรับสินค้าและบริการของคุณ คุณควรเปลี่ยนการตั้งค่าภาษีโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากอัตราภาษีมีการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวหรือหากมีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ (เช่น ภาษีตามฤดูกาล) คุณจะต้องเปลี่ยนการตั้งค่าภาษีด้วยตนเองทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงภาษี

คุณจะไม่สามารถจัดการการตั้งค่าภาษีในอนาคตสำหรับวันที่กำลังจะมาถึงได้ การตั้งค่าเหล่านี้จะสามารถใช้ได้กับปัจจุบันเท่านั้น ดังนั้น หากอัตราภาษีตามกฎหมายของคุณมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต คุณจะต้องรอจนกว่าจะถึงวันที่ดังกล่าวเพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าภาษีของคุณ จากนั้นจึงทำการเปลี่ยนแปลงทันที

เนื่องจากการตั้งค่าภาษีของคุณใช้กับเวลาปัจจุบันเท่านั้น หากมีการจองสำหรับวันที่ในอนาคตซึ่งภาษีของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลง นี่จึงเป็นปัญหาที่คุณจะต้องตระหนักและจัดการ โดยเฉพาะตามกฎหมายท้องถิ่นของคุณเอง

➕ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าอัตราภาษีมีกำหนดจะเปลี่ยนแปลงในอีกสองสัปดาห์ และคุณมีการจองอีกสามสัปดาห์ในตอนนั้น ในกรณีนี้ อัตราภาษีสำหรับการจองจะคำนวณตามอัตราภาษีของวันนี้ แม้ว่าการจองจะเป็นการเข้าพักในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้าที่อัตราภาษีมีการเปลี่ยนแปลง

ไม่แนะนำให้ใช้อัตราที่ไม่รวมภาษีสำหรับอินเวนทอรีของคุณ หากคุณคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงภาษีในอนาคต คุณควรพิจารณาเปิดใช้การตั้งค่าอินเวนทอรีแบบรวมภาษีแทน

หากคุณต้องการใช้การตั้งค่าแบบไม่รวมภาษีนี้ต่อไป เราขอแนะนำให้ประกาศโฆษณาราคาห้องที่ไม่สามารถคืนเงินได้ และต้องชำระเงินเต็มจำนวนเมื่อทำการจอง เนื่องจากการคืนเงินจะเป็นปัญหาหากอัตราภาษีมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างเวลาที่ชำระเงินและขอคืนเงิน

การชำระเงินบางส่วนอาจเป็นปัญหาได้ หากอัตราภาษีมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการชำระเงิน

ในเขตอำนาจศาลบางแห่ง อาจมีการเรียกเก็บภาษีห้องพักในอัตราที่แตกต่างจากค่าอาหารและเครื่องดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจถูกเก็บภาษีในอัตราที่แตกต่างกัน

ในสถานการณ์สมมตินี้ จำเป็นต้องสร้างภาษีเป็นเปอร์เซ็นต์สำหรับแต่ละอัตราที่แตกต่างกันเหล่านี้ในแพลตฟอร์มสถานที่พัก สำหรับภาษีแต่ละรายการที่คุณสร้าง คุณจะต้องใช้ช่องทำเครื่องหมาย ภาษีที่ใช้กับ ช่องทำเครื่องหมายเพื่อใช้อัตราภาษีกับสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายภาษีที่เกี่ยวข้องกำหนด

ตัวอย่างเช่น ห้องพักของคุณอาจถูกเก็บภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ คุณจึงสามารถสร้างภาษีใหม่ที่เรียกว่า "ภาษีห้องพัก" และตั้งค่าให้ ใช้ภาษีกับ ห้องพักทั้งหมด

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของคุณอาจถูกเก็บภาษี 30 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นคุณจะต้องสร้างภาษีใหม่ที่เรียกว่า "ภาษีสรรพสามิตแอลกอฮอล์" จากนั้นในส่วน ใช้ภาษีกับ คุณจะต้องทำเครื่องหมายที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด

ตัวอย่างหนึ่งคือบริการเสริม "อาหารค่ำพร้อมแชมเปญหนึ่งขวด" หากอาหารถูกเก็บภาษีในอัตราที่แตกต่างจากแชมเปญ อัตราพิเศษนี้จะไม่เรียกเก็บภาษีที่ถูกต้องสำหรับอย่างใดอย่างหนึ่ง วิธีแก้ไขคือสร้าง "อาหารค่ำ" และ "ขวดแชมเปญ" แยกต่างหาก จากนั้นสร้างและใช้ภาษีแยกกันกับแต่ละรายการ